top of page

HOW TO เช็กมาตรฐานวัสดุตกแต่งบ้านที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้

มาตรฐานวัสดุตกแต่งบ้าน

การเลือก วัสดุตกแต่งบ้าน ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องใส่ใจเรื่อง “มาตรฐาน” และ “คุณภาพ” ของวัสดุด้วย เพื่อให้บ้านมีความปลอดภัย มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และลดปัญหาการซ่อมแซมในอนาคต บทความนี้จะนำเสนอหลักเกณฑ์พื้นฐานที่ควรรู้ในการตรวจสอบวัสดุตกแต่งก่อนเลือกใช้จริง


การตรวจสอบมาตรฐานวัสดุตกแต่งบ้าน

ตรวจสอบมาตรฐานวัสดุตกแต่งบ้าน

การตรวจสอบมาตรฐานของวัสดุตกแต่งบ้านเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้มั่นใจว่าวัสดุนั้นมีคุณภาพ ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่


ตัวอย่างวัสดุและสิ่งที่ควรตรวจสอบ

  • ตรวจสอบมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือมาตรฐานสากล วัสดุที่ผลิตในประเทศควรมีเครื่องหมาย มอก.ส่วนวัสดุนำเข้าควรผ่านมาตรฐานสากล เช่น ISO, ASTM, หรือ EN ซึ่งช่วยยืนยันคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือของวัสดุที่นำมาใช้งาน

  • ตรวจสอบฉลากสินค้า ให้มีข้อมูลครบถ้วน เช่น รุ่นสินค้า ประเภทวัสดุ ผู้ผลิต ประเทศต้นทาง วิธีใช้งาน และรหัสผลิตภัณฑ์ ส่วนบรรจุภัณฑ์ควรอยู่ในสภาพดี ไม่มีความเสียหายที่อาจเกิดจากการขนส่งหรือการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม

  • ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งจำหน่ายหรือผู้เชี่ยวชาญ ควรเลือกร้านที่ให้ข้อมูลทางเทคนิคชัดเจนและมีเอกสารรับรองมาตรฐาน สำหรับวัสดุเฉพาะทาง เช่น ฉนวนหรือแผ่นกันเสียง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือวิศวกรโดยตรง

  • เปรียบเทียบวัสดุจากหลายยี่ห้อ โดยสังเกตน้ำหนัก สี ความแน่น และกลิ่น ขอตัวอย่างวัสดุ (sample) เพื่อลองทดสอบการทนน้ำ ความแข็งแรง และความสะดวกในการติดตั้ง


การศึกษาคุณสมบัติทางเทคนิคของวัสดุตกแต่งบ้าน

ศึกษาคุณสมบัติทางเทคนิคของวัสดุตกแต่งบ้าน

การศึกษาคุณสมบัติทางเทคนิคของวัสดุเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การเลือกวัสดุมีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของแต่ละพื้นที่ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการบำรุงรักษาในระยะยาว


การเลือกคุณสมบัติของวัสดุตกแต่งบ้าน

  • วัสดุควรทนความชื้นและน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงเปียก เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว พื้นไม้ควรดูดซึมน้ำต่ำหรือใช้วัสดุกันน้ำ เช่น SPC, กระเบื้อง ผนังและฝ้าเลือกยิปซั่มกันชื้นหรือไฟเบอร์ซีเมนต์ สีภายนอกควรกันน้ำและไม่หลุดลอก

  • วัสดุภายนอกควรทนแดดและรังสี UV สีทาภายนอกต้องไม่ซีดหรือเสื่อมสภาพเร็ว พื้นภายนอกไม่ควรบิดงอหรือแตกร้าว และฟิล์มหรือกระจกควรมีค่า UV Protection สูง

  • วัสดุควรแข็งแรงและทนแรงกระแทก พื้นที่ใช้งานหนัก เช่น โถงหรือพื้นบ้านกระเบื้องควรมีค่า Mohs 5–6 พื้นไม้ใช้ AC3 ขึ้นไป ผนังควรใช้วัสดุรับแรงได้ เช่น SPC หรือไวนิลแกนแข็ง

  • พื้นในพื้นที่เปียกควรกันลื่น เช่น ห้องน้ำหรือระเบียง โดยเลือกวัสดุที่มีค่า Anti-slip (R9–R13) และพื้นผิวมีความฝืดหรือลวดลายลดการลื่น

  • เลือกวัสดุที่ดูแลรักษาง่าย ไม่อมฝุ่น ไม่ดูดคราบ เช่น ผิวเคลือบนาโน สีที่เช็ดล้างได้ ผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ควรทำความสะอาดง่ายและไม่ขึ้นรา

  • การกันเสียงและความร้อน บ้านที่ต้องการความเงียบหรือกันร้อนควรใช้วัสดุดูดซับเสียง เช่น ยิปซัมกันเสียง แผ่นอะคูสติก ฝ้าบุฉนวน หรือกระจกสองชั้นเพื่อลดเสียงและความร้อนจากภายนอก

  • วัสดุควรเหมาะกับแต่ละพื้นที่ เช่น ห้องน้ำต้องกันน้ำ กันลื่น ไม่ลามไฟ ห้องนอนควรใช้วัสดุปลอดสาร VOC ห้องครัวควรใช้พื้นทนร้อน น้ำมัน และคราบสกปรก


การเลือกวัสดุตกแต่งบ้านที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

เลือกวัสดุตกแต่งบ้านที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

การเลือกใช้วัสดุตกแต่งไม่ควรคำนึงแค่เรื่องความสวยงามหรือราคาถูกเท่านั้น แต่ควรให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยของวัสดุ ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว


ตัวอย่างความสำคัญกับความปลอดภัยของวัสดุตกแต่งบ้าน

  • หลีกเลี่ยงวัสดุที่ปล่อยสารเคมีอันตราย เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ในไม้ MDF, VOCs ในสีหรือกาว และสารตะกั่วหรือปรอทในของตกแต่งที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือโรคเรื้อรัง

  • เลือกวัสดุที่มีการรับรองความปลอดภัย เช่น E0/E1 สำหรับไม้ปล่อยฟอร์มาลดีไฮด์ต่ำ, Green Label หรือฉลากเขียวเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมาตรฐาน Low/Zero VOCs, GREENGUARD หรือ EC1 สำหรับคุณภาพอากาศภายในอาคารGREENGUARD / EC1: ฉลากมาตรฐานระดับสากลด้านอากาศภายในอาคาร

  • วัสดุทางเลือกเพื่อสุขภาพ เช่น สีสูตรน้ำปลอด VOCs ไม่มีกลิ่นฉุน, MDF เกรด E0/E1 สำหรับเฟอร์นิเจอร์ ฉนวนใยแก้วหุ้มฟอยล์ไม่คัน ลดฝุ่น และพื้นไวนิล/SPC ปลอดฟอร์มาลดีไฮด์ เหมาะสำหรับผู้แพ้ง่าย

  • ก่อนซื้อควรอ่านฉลาก ตรวจสอบส่วนผสมและสารเคมี ขอใบรับรองจากผู้ผลิต และหลีกเลี่ยงสินค้าที่ไม่มีรายละเอียดหรือไม่ระบุแหล่งผลิต

  • สังเกตอาการผิดปกติหลังติดตั้ง หากหลังติดตั้งวัสดุมีอาการแสบตา จมูก เวียนหัว หรือกลิ่นฉุนไม่หายภายใน 1–2 สัปดาห์ ควรหยุดใช้งานและติดต่อผู้จำหน่ายทันที

  • ระบายอากาศให้เพียงพอ แม้ใช้วัสดุปลอดภัย ควรเปิดหน้าต่าง พัดลม หรือใช้เครื่องฟอกอากาศหลังติดตั้งใหม่ เพื่อลดสารระเหยตกค้าง


การรับประกันและความคุ้มค่าการใช้งานวัสดุตกแต่งบ้าน

การรับประกันและความคุ้มค่าการใช้งานวัสดุตกแต่งบ้าน

การเลือกวัสดุตกแต่งบ้านควรคำนึงถึงการรับประกันจากผู้ผลิตที่ชัดเจน ให้มั่นใจในคุณภาพลดความเสี่ยงหากเกิดปัญหาและพิจารณาความคุ้มค่าถึงอายุการใช้งาน การดูแลรักษา และค่าใช้จ่ายในระยะยาว


การรับประกันวัสดุตกแต่งบ้าน

  • ระยะเวลารับประกัน วัสดุคุณภาพมักมีการรับประกันตั้งแต่ 1 ปีไปจนถึง 15 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุ เช่น พื้นไม้ลามิเนต กระเบื้อง หรืองานผนังสำเร็จรูป

  • ขอบเขตการรับประกัน ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าการรับประกันครอบคลุมปัญหาอะไร เช่น สีซีด รอยแตกร้าว การลอก หรือความเสียหายที่เกิดจากคุณภาพวัสดุ

  • ข้อยกเว้นในการรับประกัน บางกรณีการใช้งานผิดวิธี เช่น ติดตั้งในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ทำตามคำแนะนำของผู้ผลิต อาจทำให้ประกันเป็นโมฆะ


ความคุ้มค่าในการใช้งานวัสดุตกแต่งบ้าน

  • ความทนทานและอายุการใช้งานวั สดุที่ราคาสูงอาจมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า เช่น ไม้จริงหรือหินธรรมชาติ ใช้ได้นานหลายสิบปีถ้าดูแลอย่างเหมาะสม

  • การดูแลรักษา เลือกวัสดุที่ดูแลรักษาง่าย เช่น กระเบื้อง หรือพื้นไวนิล จะช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว แม้ต้นทุนเริ่มต้นอาจสูงกว่าวัสดุราคาถูก

  • ความเหมาะสมกับการใช้งานแต่ละพื้นที่ เช่น ห้องน้ำควรใช้วัสดุกันน้ำได้ พื้นชั้นล่างควรใช้วัสดุที่ทนต่อแรงกดและรอยขีดข่วน ไม่ควรเลือกตามความสวยอย่างเดียว

  • ความคุ้มค่าระยะยาว พิจารณาเปรียบเทียบราคากับอายุการใช้งาน เช่น วัสดุราคาถูกที่ต้องเปลี่ยนทุก 2-3 ปี อาจไม่คุ้มเท่าวัสดุราคาแพงที่อยู่ได้ 10 ปี


สรุป

การเลือกวัสดุตกแต่งบ้านอย่างมีความรู้ช่วยให้บ้านสวย ปลอดภัย และส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว ควรพิจารณาทั้งมาตรฐาน คุณสมบัติทางเทคนิค ความปลอดภัย และความคุ้มค่า การศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่การอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพและคุ้มค่า


คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะยกระดับบ้านของคุณด้วยการออกแบบอย่างชาญฉลาด? [ทีมผู้เชี่ยวชาญของ conwenient] พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยคุณสร้างพื้นที่บ้านที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน และส่งผลต่อความพึงพอใจในระยะยาว


สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนในพูลวิลล่า อ่านบทความของเราเกี่ยวกับ

Commentaires


บริการทั้งหมด

สำรวจพื้นที่ให้คำปรึกษา
ออกแบบภายใน
ออกแบบห้องนอน

สินค้า

Bed room set
TV Wall set
Warddrobe set

ติดต่อสอบถาม

แจ้งปัญหา
ปรึกษาปัญหา
ประเมินราคาเบื้องต้น
ออกแบบภายในบ้าน
ออกแบบห้องครัว
ออกแบบห้องนั่งเล่น
ตกแต่งภายใน

CONWENIENT

633/1 ถ.สาธุประดิษฐ์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา  กรุงเทพมหานคร 10120

qrcode

Tel.093-4241559 / 063-8960577

Fb.facebook/conwenient.com

www.conwenient.com

Copyright © 2022 clinicdeccor.com All Rights Reserved
bottom of page